แบล็คแจ็ค (Blackjack) หรือที่เรียกว่า 21 เป็นหนึ่งในเกมไพ่ที่ได้รับความนิยมอย่างแพร่หลาย ด้วยกติกาการเล่นที่ง่ายต่อการเข้าใจและมีโอกาสทำเงินได้อย่างรวดเร็ว นักเดิมพันสามารถเข้าเล่น Blackjack ได้ตลอด 24 ชั่วโมง ไม่ว่าจะเป็นในคาสิโนแบบดั้งเดิมหรือผ่านแพลตฟอร์มออนไลน์ เกมนี้ไม่เพียงแต่ท้าทายความคิดและทักษะในการคำนวณ แต่ยังเสริมสร้างความสนุกสนานและตื่นเต้นให้กับผู้เล่นได้ทุกเมื่อ ด้วยเหตุนี้ Blackjack ที่ BGS777 จึงกลายเป็นเกมไพ่ที่ได้รับความนิยมและเป็นที่รักของนักเดิมพันทั่วโลก สมัครสมาชิก เลย
กฎกติกา สุดยอดเกมไพ่ แบล็คแจ็ค มีดังนี้
เกมไพ่แบล็คแจ็ค เป็นเกมไพ่ที่ได้รับความนิยมกันอย่างมากในโลกตะวันตก โดยเฉพาะกลุ่มผู้ที่ชื่นชอบการคิดคำนวณวางแผนแก้ปัญหา เพราะกติกาของเกมจะมอบทางเลือกหลายทางให้เราใช้จัดไพ่ เพื่อไปวัดแต้มแข่งกับเจ้ามือ ซึ่งจะแตกต่างจากเกมคาสิโนทั่วไป ที่มักจะไม่อนุญาตให้เราทำอะไรกับไพ่ได้ แต่ให้เราทำได้แค่เลือกฝั่งเดิมพันอย่างที่ได้กล่าวไปข้างต้นแล้วว่าหลักการง่ายๆ คือหลังจากแจกไพ่ครบ ทุกคนสามารถจั่วไพ่ ได้ไม่จำกัด จั่วจนกว่าแต้มของคุณจะเกิน 21 หรือได้แต้มที่พอใจ หรือแต้มเกิน 21 ก็จะหมดสิทธิ์จั่วทันที และ แบล็คแจ็คออนไลน์เป็นเกมการเล่นของผู้เล่นกับเจ้ามือ แต้มของผู้เล่นคนอื่นบนโต๊ะ ไม่ส่งผลต่อไพ่ผู้เล่นเอง
- กติกาของ Blackjack (Blackjack Rules) แตกต่างจากเกมไพ่อื่นๆ ตรงที่เราสามารถจัดไพ่ในมือได้
- เป้าหมายการเล่น ไม่ใช่การจั่วไพ่ให้ได้ 21 แต้ม แต่เป็นการเอาชนะเจ้ามือ ผ่านกลยุทธ์ต่างๆ
- การนับแต้ม นับเหมือนเกมไพ่ทั่วไป ยกเว้นไพ่ A หรือ Ace ที่นับได้ทั้ง 1 และ 11 แต้ม
- การดำเนินเกม เริ่มจากเราวางเดิมพัน เจ้ามือแจกไพ่ เราเล่นไพ่ในมือ เจ้ามือจัดไพ่ตัวเอง แล้ววัดผล
- มาตรฐานสากล คือสิ่งที่เราต้องดู โดยรวมคือ โต๊ะต้องไม่เอาเปรียบเรา และมีทางเลือกให้เราหลากหลาย
3 สูตร สุดยอดเกมไพ่ แบล็คแจ็ค ทำกำไรได้จริง
ก่อนที่จะไปดูสูตร Blackjack เรามาดูกันก่อนว่าแต้มของไพ่ Blackjack นั้นแบ่งออกตามนี้
- ไพ่ 2-10 นับตามจำนวนเลขบนหน้าไพ่
- ไพ่ J Q K เท่ากับ 10 แต้ม
- ไพ่ A เท่ากับ 1 แต้มหรือ 11 (ทั้งนี้จะขึ้นอยู่กับไพ่บนมือของผู้เล่นว่าแต้มรวมอยู่ที่เท่าไหร่)
ผู้เล่นจะสามารถทำการเรียกไพ่เพิ่มได้ตามใจชอบ โดยจะเริ่มจากผู้เล่นตามด้วยเจ้ามือเป็นคนสุดท้ายนั่นเอง โดยฝั่งไหนที่มีแต้มเกิน 21 ก็จะถือว่าแพ้ทันที
1.สูตรเดิมพัน Perfect Pair
สำหรับสูตรนี้คือ จะเป็นการใช้ไพ่ 2 ใบแรกที่ให้ผู้เล่นได้รับมาจับเป็นไพ่คู่ให้ได้มากที่สุดเนื่องจากว่าไพ่คู่จะมีความใหญ่กว่าไพ่แบบอื่นนั่นเอง เช่น 1-1, 2-2, 3-3, Q-Q เป็นต้น จะมีการแบ่งออกเป็นคู่ลักษณะที่น่าสนใจดังนี้
- คู่เหมือน คือ ไพ่ 2 ใบที่จะมีดอกเดียวกัน โดยที่จะเป็นเลขใดก็ได้ เช่น J ดำ 2 ใบ เป็นต้นและมีอัตราการจ่ายอยู่ที่ 25:1 บาท
- คู่สี คือ ไพ่ 2 ใบที่จะมีสีที่เหมือนกันแต่ดอกไม่ต้องเหมือนกันก็ได้ เช่น ไพ่ 5 โพแดงและ 5 ดอกจิก เป็นต้นและอัตราการจ่ายอยู่ที่ 12:1 บาท
- คู่ผสม คือ ไพ่ที่จะมีดอกและสีที่แตกต่างกันแต่ว่าเลขบนไพ่จะต้องแต้มเดียวกัน เช่น 6 โพแดงกับ 6 โพดำ และอัตราการจ่าบอยู่ที่ 6:1 บาท
2. สูตรเดิมพัน 21+3
สูตรนี้ที่จะเป็นทริคที่จะเอาชนะเจ้ามือด้วยการเดิมพันกับไพ่ใหญ่อย่างตองเหมือน ,ตอง, สเตรทฟลัช ,สเตรท,ฟลัชเพราะว่าจะเป็นไพ่ที่ถือว่ามีอัตราการจ่ายเงินที่สูงกว่าไพ่รูปแบบอื่นนั่นเอง โดยจะมีรูปแบบไพ่ดังนี้
- ไพ่ตองเหมือนกัน 3 ใบ คือ ไพ่ 3 ใบที่เหมือนกัน เช่น K โพแดง 3 ใบเป็นต้น โดยอัตราการจ่ายคือ 100:1 บาท
- Straight Flush คือ ไพ่ที่มีแต้มเรียงตามลำดับแต่จะต้องมีดอกเดียวกันเช่น J Q K โพแดง เป็นต้น โดยอัตราการจ่ายอยู่ที่ 40:1 บาท
- ไพ่ตองเหมือนกัน คือ ไพ่ 3 ใบที่จะมีแต้มเหมือนกันทั้งหมดแต่สีและดอกไม่เหมือนกันก็ได้ เช่น 5 โพแดง 5 โพดำและ 5 ดอกจิก เป็นต้น อัตราการจ่ายคือ 30:1
- ไพ่สเตรท คือ ไพ่ที่มีแต้มเรียงกันตามลำดับ โดยที่ไม่จำเป็นต้องสีและดอกเหมือนกัน เช่น 2 โพแดง 3 ดอกจิก 4 ข้าวหลามตัด เป็นต้น อัตราการจ่ายคือ 10:1
- Flush คือ ไพ่ดอกเดียวหมดกันทั้ง 3 ใบ เช่น 3 โพแดง 5 โพแดง 6 โพแดง เป็นต้น อัตราการจ่ายคืออยู่ที่ 5:1
3.สูตรเดิมพัน Bet Behind
สูตรนี้ที่จะใช้การแทงตามผู้เล่นข้าง ๆ วิธีนี้ที่จะเป็นการมองไพ่ของผู้เล่นคนอื่นที่ไม่ใช่มือของเรานั่นเอง ให้ทำการวางเดิมพันลงไปในจำนวนที่เหมาะสม แต้มจะเห็นไปตามมือผู้เล่นข้าง ๆ โดยที่เราจะไม่มีสิทธ์ที่จะทำการขอจั่วหรือหยุดและหากว่าสามารถตามได้อย่างถูกจังหวะก็จะเอาชนะได้อย่างสบาย ๆชิว ๆได้เลย